ตำนานทั้งนั้น 7 สุดยอดแข้งที่เชลซีเสียไปแบบฟรีๆก่อนรือดิเกอร์
ตำนานทั้งนั้น ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา “สิงห์บลูส์” เชลซี ภายใต้การดูแลของ “เสี่ยหมี” โรมัน อบราโมวิช ที่ตอนนี้ได้กลายเป็นอดีตเจ้าของสโมสรเรียบร้อย ถือเป็นสโมสรยักษ์ใหญ่ที่มีกำลังด้านการเงินสูงมาก จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ที่พวกเขาสามารถกว้านซื้อแข้งดาวดังระดับโลกเข้ามาประดับทีมได้เป็นว่าเล่น แต่ในขณะเดียวกันก็มีนักเตะระดับแกนหลักหลายราย ที่พวกเขากลับต้องเสียไปแบบฟรีๆ อย่างล่าสุดก็คือ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ที่เตรียมโยกซบ เรอัล มาดริด แบบไร้ค่าตัวในช่วงซัมเมอร์นี้ หลังจากที่ตกลงเรื่องสัญญาฉบับใหม่กันไม่ได้ เช่นเดียวกับ อันเดรียส คริสเตนเซ่น ที่น่าจะลงเอยกับ บาร์เซโลน่า เร็วๆ นี้ และนี่คือ 7 แข้งระดับท็อปที่ เชลซี เสียไปแบบไม่ได้อะไรตอบแทน ตลอดช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา
– แฟร้งค์ แลมพาร์ด
ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ เชลซี (211 ประตู) หมดสัญญากับสโมสร และเลือกย้ายไปค้าแข้งที่ สหรัฐฯ โดยเซ็นสัญญากับ นิวยอร์ก ซิตี้ เอฟซี ช่วงซัมเมอร์ปี 2014 แต่ในระหว่างที่รอให้ลีกมะกันเปิดซีซั่นในช่วงเดือนมกราคม ปี 2015 แลมพาร์ด ถูกปล่อยตัวให้สโมสรพันธมิตรอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยืมใช้งาน เพื่อรักษาระดับความฟิต และที่น่าอัศจรรย์คือ ประตูแรกของเขาในสีเสื้อ “เรือใบสีฟ้า” เป็นการยิงใส่ เชลซี เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2014 ซึ่งแน่นอนว่า แลมพาร์ด ไม่ได้แสดงอาการดีใจกับประตูที่ทำได้ เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ “สิงห์บลูส์” และสุดท้ายเจ้าตัวเล่นให้ แมนฯ ซิตี้ ตลอดทั้งฤดูกาล 2014/15 พร้อมกับทำไป 8 ประตู จากการลงเล่นรวมทุกรายการ 38 นัด ก่อนรีไทร์กับ นิวยอร์ก ซิตี้ เอฟซี ในปี 2016
– ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา
ดร็อกบา ยิงลูกจุดโทษพา เชลซี โค่น บาเยิร์น มิวนิค ในการดวลเป้า คว้าถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองเป็นสมัยแรกในซีซั่น 2011/12 ก่อนหมดสัญญาค้าแข้งในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ พร้อมเลือกย้ายไปเปิดประสบการณ์ค้าแข้งที่ จีน กับ เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว แต่ในปี 2014 ดร็อกบา ที่เพิ่งไปเล่นให้ กาลาตาซาราย กลับมาสวมยูนิฟอร์ม “สิงห์บลูส์” อีกครั้ง ภายใต้การคุมทีมของกุนซือคนคุ้นเคยอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ พร้อมฝากผลงานทำ 7 ประตู จากการลงเล่น 40 นัด ก่อนย้ายฟรีอีกครั้งไปร่วมก๊วน มอนทรีออล อิมแพ็กต์ ต่อด้วย ฟีนิกซ์ ไรซิ่ง ก่อนตัดสินใจแขวนสตั๊ดในปี 2018
– จอห์น เทอร์รี่
ยอดปราการหลังผู้จงรักภักดีต่อ เชลซี ย้ายร่วมก๊วน แอสตัน วิลล่า แบบไร้ค่าตัวในปี 2017 หลังจากที่ลงเล่นให้ “สิงห์บลูส์” มากถึง 717 นัด ทำได้ 67 ประตู โดยฤดูกาลสุดท้ายในอาชีพพ่อค้าแข้งนั้น “เจที” เกือบช่วย วิลล่า เลื่อนชั้นสู่เวที พรีเมียร์ลีก (แพ้ ฟูแล่ม 0-1 ในรอบชิงฯ เพลย์ออฟเลื่อนชั้น) ด้วย ซึ่งหลังจากนั้น เทอร์รี่ ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยกุนซือ “สิงห์ผงาด” ก่อนอำลาตำแหน่งไปเมื่อปี 2021
– แอชลี่ย์ โคล
ได้ครบทั้งแชมป์ พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, ยูฟ่า ยูโรปา ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ฤดูกาลสุดท้ายกับสโมสร (2013/14) โคล เสียตำแหน่งตัวจริงให้กับ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า จึงไม่แปลกใจที่ เชลซี เลือกที่จะปล่อยเจ้าตัวออกไปแบบฟรีๆ เมื่อหมดสัญญา ซึ่งหลังจากนั้น โคล ได้ไปค้าแข้งในลีกอิตาลีกับ อาแอส โรม่า ก่อนเปิดประสบการณ์ลีกมะกันกับ ลอส แองเจลีส แกแล็กซี่ (ปี 2016-2018) และกลับมาปิดฉากอาชีพนักเตะกับ ดาร์บี้ เค้าน์ตี้ ในปี 2019
– โคล้ด มาเกเลเล่
สุดยอดมิดฟิลด์ตัวรับในตำนานชาวฝรั่งเศส คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 2 สมัย กับ เชลซี ก่อนย้ายฟรี กลับไปค้าแข้งในลีกบ้านเกิดกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในปี 2008 ที่ซึ่งเจ้าตัวคว้าแชมป์ เฟร้นช์ คัพ 1 สมัย และหลังจากที่รีไทร์ในปี 2011 มาเกเลเล่ ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยของกุนซือ คาร์โล อันเชลอตติ (ปี 2011-2013) ด้วย
– ซาโลมง กาลู
สมัยอยู่กับ เชลซี ถือเป็นซูเปอร์ซับชั้นดี มักทำประตูสำคัญให้ทีมได้บ่อยๆ แต่ด้วยการที่ กาลู อยากลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เจ้าตัวตัดสินใจอำลาถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อหมดสัญญาในปี 2012 และเลือกซบ ลีลล์ สโมสรดังในเวที ลีก เอิง ฝรั่งเศส ที่ซึ่งเจ้าตัวทำได้ถึง 34 ประตู ในสองฤดูกาลเต็มๆ ที่อยู่กับสโมสร ก่อนย้ายไปเล่นให้ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ที่ เยอรมนี (2014-2020) ต่อด้วย โบตาโฟโก้ สโมสรแดนแซมบ้า ที่เจ้าตัวเพิ่งตกลงยกเลิกสัญญาเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้เอง
– บรานิสลาฟ อิวาโนวิช
เป็นอีกคนที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมายกับ เชลซี โดยได้ทั้งแชมป์ พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ตลอดระยะเวลาร่วมๆ 10 ปีที่อยู่กับสโมสร ก่อนย้ายซบ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก แบบไร้ค่าตัว ในปี 2017 พร้อมช่วยทีมคว้าแชมป์ลีกแดนหมีขาว 2 สมัยติด หลังจากนั้นในปี 2020 เจ้าตัวเลือกคัมแบ็กสู่ลีกอังกฤษอีกครั้ง ด้วยการเซ็นสัญญาระยะสั้นกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ก่อนแยกทางกับ “เดอะ แบ็กกี้ส์” เมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว และปัจจุบัน อิวาโนวิช วัย 38 ปี อยู่ในสถานะนักเตะไร้สังกัด
อัปเดตข่าวได้ทุกวัน : Game Hall BIG GAMING
ขอขอบคุณแหล่งข่าว : Siamsport